แจ้งจับตระกูล “ธนาธร-สมพร-ชนาพรรณ” รุกป่าสงวนราชบุรี กว่า 2,000 ไร่

เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

(4 ก.พ.64) ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เมื่อเวลา 15.00 น. นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. เพื่อแจ้งความเพิ่มเติมกับ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ, น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลังพบการใช้เอกสารที่ดิน น.ส.3 ก. จำนวน 60 ฉบับ (รวมเนื้อที่ 2,154-3-82 ไร่) นำมายึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

นายอดิศร กล่าวว่า ทางกรมป่าไม้ได้ตรวจสอบกรณีการครอบครองที่ดินของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และผู้เกี่ยวข้องในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในท้องที่จังหวัดราชบุรี คณะเจ้าหน้าที่ของชุดพยัคฆ์ไพร ได้สืบสวนสอบสวน พบว่า ยังมีการนำเอกสารสิทธิที่ดินประเภท น.ส.3 ก. ที่เป็นเอกสารที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกจำนวนมาก ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อีกจำนวนไม่น้อยกว่า 60 ฉบับ รวม 2,154 ไร่ นำมายึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมขยายผลสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบต่อเนื่องจนถึงวันนี้

นายอดิศร กล่าวต่อว่า ผลการตรวจสอบ พบว่า พื้นที่ที่มีการครอบครองทำประโยชน์ อยู่ในท้องที่ ต.รางบัว, ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ต่อเนื่องขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่เศษ มีการใช้ประโยชน์โดยปลูกยูคาลิปตัสต่อเนื่องทั้งพื้นที่ สืบทราบมีการจ้างเฝ้าดูแลพื้นที่โดยกลุ่มบุคคลในพื้นที่ สืบสวนสอบสวน พบว่า พื้นที่ดังกล่าวทั้งหมดถูกครอบครองโดยใช้เอกสารสิทธิประเภท น.ส.3 ก. ที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 60 ฉบับ พบผู้ครอบครอง น.ส.3 ก. คือ นางสมพร จำนวน 53 ฉบับ เนื้อที่ 1,940-3-93 ไร่ เป็นของ น.ส.ชนาพรรณ จำนวน 5 ฉบับ เนื้อที่ 132-0-22 ไร่ และของนายธนาธร จำนวน 2 ฉบับ เนื้อที่ 81-3-67 ไร่ รวมเนื้อที่ 2,154-3-82 ไร่

นายอดิศร กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบทั้ง 60 ฉบับ ออกโดยไม่มีหลักฐานเดิม (ส.ค.1) เป็นการเดินสำรวจออกเมื่อปี 2521 ก่อนประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อปี 2527 แต่พื้นที่ดังกล่าวถูกประกาศเป็นเขตป่าไม้ถาวรหมายเลข 85 เมื่อปี 2512 หรือก่อนที่จะมีการออกเอกสาร น.ส.3 ก. ทั้ง 60 ฉบับ จึงเป็นเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อตรวจสอบโดยละเอียด พบว่า ปรากฏชื่อผู้ครอบครอง 3 ราย นำเอกสารนำเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนำมายึดถือ ครอบครอง ทำประโยน์ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติเป็นการกระทำให้เกิดความเสื่อมเสีย เสียหายต่อพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้

นายอดิศร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ กรมป่าไม้ ตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ทั้งเจ้าพนักงานที่ดินและเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ที่ได้ร่วมกันออกเอกสารสิทธิที่ดินดังกล่าว ประกอบด้วย นายวานิภพ ธรรมวิเศษ เป็นเจ้าหน้าที่พิสูจน์สอบสวน, นายรวม ชลิตโกมุท เป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาคสนาม, นายไพโรจน์ รัตนวิสาลนนท์ เป็นผู้ควบคุมสาย, นายโกศล ลักษิตานนท์ เป็นผู้ลงนามเห็นควรออก น.ส.3 ก. นายเฉลิมวงศ์ สรรพศิริ ปลัดอำเภอ ทำการแทนนายอำเภอจอมบึง เป็นผู้ลงนามคำสั่งให้ออกเอกสาร น.ส.3 ก. ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2521 ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วตามรายละเอียดข้างต้น จึงเห็นว่า เป็นการกระทำที่เชื่อได้ว่า เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พระราชบัญญัติป่าไม้ ประมวลกฎหมายที่ดิน (เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564)

แหล่งข่าว https://mgronline.com/crime/detail/9640000011489