(4 มิ.ย.64) การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก รอบสอง โซนเอเชีย วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน 2564 ขุนพล “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงสนามนัดที่ 6 ดวลกับ อินโดนีเซีย ที่อัล-มัคตูม สเตเดียม นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เกมนี้มีความสำคัญกับทีมชาติไทยเป็นอย่างมาก ต้องการสามคะแนนเพื่อลุ้นผ่านเข้าไปสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย ก่อนลงเล่นทัพ “ช้างศึก” มี 8 คะแนน จาก 5 นัด ส่วน อินโดนีเซีย ลงเล่นไปแล้ว 5 นัดเช่นกัน ยังไร้แต้ม ตกรอบเป็นที่แน่นอนแล้ว
อากิระ นิชิโนะ ทำเซอร์ไพรส์พอสมควรเมื่อส่ง “เจ้ากัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร แข้งจากทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ลงเล่นในตำแหน่งจอมทัพ โดยมี อดิศักดิ์ ไกรษร เป็นกองหน้าตัวเป้า และใช้ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ กับ เอกนิษฐ์ ปัญญา เล่นริมเส้น ขณะที่ สุภโชค สารชาติ ติดใบเหลืองมาตั้งแต่นัดก่อน เกมนี้เลยพักเอาไว้เป็นตัวสำรอง
ขณะที่ อินโดนีเซีย ภายใต้การกุมบังเหียนของ ชิน แต-ยอง ยอดโค้ชชาวเกาหลีใต้ นำทัพมาโดยกัปตันทีม อีวาน ดิมาส อาร์โมโน โดยมีทีเด็ดอยู่ที่ เอกี มัวลานา ผู้เล่นหมายเลข 10 ที่เล่นอยู่กับ เลเซีย กดัญสค์ ในลีกโปแลนด์ รวมไปถึงแบ็คขวา อย่าง อาสนาวี บาฮาร์ ที่ค้าแข้งอยู่กับ อันซาน กรีนเนอร์ส ในดิวิชั่น 2 เกาหลีใต้
นาทีที่ 5 ทีมชาติไทย ออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะลูกเตะมุม มานูเอล ทอม เบียร์ห พยายามจะโหม่งแต่ไม่โดน บอลเด้งมาเข้าทาง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม แตะด้วยขวา ก่อนซัดเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบมุมอย่างสวยงาม
หลังได้ประตูขึ้นนำ ไทย พยายามจะเปิดเกมบุกเพื่อหาประตูที่สองแต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์เน้นๆ เท่าไหร่ และก็มาโดน อินโดนีเซีย ตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 39 จากจังหวะบอลทะลุช่อง คาเดค อากุง หลุดเข้ามาในเขตโทษ ซัดหนีมือศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เข้าไป และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง ไทย เปิดเกมบุกตั้งแต่ต้นหวังทำประตูขึ้นนำอีกครั้งให้ได้ สุดท้ายได้ประตูขึ้นนำ 2-1 ในนาทีที่ 50 จากจังหวะที่ เอกนิษฐ์ ปัญญา เปิดจากหน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวามาให้ สุพรรณ ทองสงค์ ที่เสาสอง โหม่งชงมาให้ อดิศักดิ์ ไกรษร วิ่งมาโขกบริเวณกรอบ 6 หลาเข้าไป
นาทีที่ 60 อินโดนีเซีย มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากจังหวะการบุกขึ้นมาทางฝั่งขวา เอกี มัวลานา ยิงไปแฉลบแนวรับของไทย ก่อนเด้งไปเข้าทาง อีวาน ดิมาส ที่หลุดกับดักล้ำหน้า และซัดผ่านมือศิวรักษ์เข้าไป
หลังเสียประตู นาทีที่ 66 ไทยเปลี่ยนตัว 2 คนรวด เอา ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และสุภโชค สารชาติ ลงมาเล่นแทน เอกนิษฐ์ ปัญญา และปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์
นาทีที่ 79 ทีมชาติไทย เปลี่ยนตัวอีก 2 คน เอา ศศลักษณ์ ไหประโคน ลงมาแทนเออร์เนสโต้ ภูมิภา และเอาฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ลงมาเล่นแทน พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล และในนาทีที่ 87 ไทยเปลี่ยนคนสุดท้าย เอา ศุภชัย ใจเด็ด ลงมาแทน อดิศักดิ์ ไกรษร
ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมชาติไทย พยายามเปิดเกมบุกอย่างหนักหวังทำประตูขึ้นนำอีกครั้งให้ได้ แต่ยังหาโอกาสเข้าทำได้ไม่ดีพอ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ไทย เสมอ อินโดนีเซีย 2-2
จากผลเสมอในเกมนี้ทำให้ ไทย มีเพิ่ม 1 คะแนน ขยับเป็น 9 แต้ม รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม จี ตามหลัง เวียดนามทีมจ่าฝูง 2 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ส่วนอินโดนีเซีย มี 1 แต้ม รั้งบ๊วยของกลุ่ม โดย “ช้างศึก” ต้องเก็บชัยให้ได้ทั้ง 2 นัดที่เหลือกับทั้ง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมาเลเซีย เพื่อลุ้นเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุดต่อไป
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, มานูเอล ทอม เบียร์ห, สุพรรณ ทองสงค์, เออร์เนสโต ภูมิภา, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, สารัช อยู่เย็น, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, เอกนิษฐ์ ปัญญา, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, อดิศักดิ์ ไกรษร
ทีมชาติอินโดนีเซีย : นาเดโอ อาร์กา วินาตา (GK), อาริฟ ซาเตรีย, ริซกี ริโด รามาดานี, อีแวน ดิมาส ดาร์โมโน, วิตาน ซูเลมาน, คูเชดยา ฮารี ยูโด, เอกี มัวลานา, ปราตามา อาร์ฮาน อาลีฟ, อาสนาวี มังกัวลาม, ซยาห์เรียน อาบิมานยู, คาเดค อากุง
ผลการแข่งขันอีกหนึ่งคู่ในกลุ่ม G
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 4-0 มาเลเซีย
แหล่งข่าว https://m.mgronline.com/sport/detail/9640000053814